{alertSuccess}ประวัติของ B.P.
ประวัติของ B.P. ผู้ก่อกำเนิดลูกเสือโลก
B.P. คือ โรเบิร์ต สติเฟนสัน สไมธ์ เบเดน เพาเวลล์ ( Robert Stephenson Smyth Baden Powell หรือ ลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ แห่งกิลเวลล์ ผู้ก่อกำเนิดลูกเสือโลก เป็นชาวอังกฤษเกิดที่กรุงลอนดอน
เกิด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400 (ค.ศ. 1857) บ้านเลขที่ 6 ถนนสเตนโฮฟ และคาสเตอร์เกต ลอนดอนตะวันตก
บิดาชื่อ H.G.Baden Powell เป็นศาสตราจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด เป็นพระนักบวชในคริสต์ศาสนา สอนวิชาคณิตศาสตร์ และธรรมชาติศึกษาถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 64 ปี ขณะที่ B.P. อายุได้ 3 ปีเท่านั้น
มารดาชื่อ เบนรี แอตต้า เกรซ สไมธ์ของพลเรือเอกวิลเลียม เฮนรี วิลเลียม เฮนรี สไมธ์ มารดาของ B.P. ภรรยาคนที่ 3 มีบุตรกับบิดา B.P. รวม 10 คน B.P. เป็นบุตรคนที่ 8 (เป็นบุตรชายคนที่ 6) ต่อมาตายเสีย 3คน คงเหลือ 7 คน (ชาย 6 คน หญิง 1 คน) เมื่อบิดา B.P. ถึงแก่กรรม มารดา B.P. จึงคงเลี้ยงบุตรทั้ง 7 คน มาด้วยความเหนื่อยยากมารดา B.P. บี.พี. ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 90 ปีเศษ (พ.ศ. 2457)
วัยเด็ก พ.ศ. 2400 – 2419 ( ค.ศ. 1857 – 1876 ) เมื่อเล็กก่อนเข้าโรงเรียน มารดาเป็นผู้สอน อ่าน เขียน ทำเลข และวาดเขียน ขณะเมื่อมาพักผ่อนอยู่กับคุณตา คุณตาฝึกว่ายน้ำ เล่นสเกต ขี่ม้า หัดวัดปริมาณแสงแดดในเวลากลางวัน สังเกตดวงดาวเวลากลางคืน B.P. ชอบร้องเรียนเสียงสัตว์และเสียงนกต่างๆ ชอบแสดงท่าขบขันต่าง ๆ เมื่ออายุ 11 -12 ปี เข้าเรียนในโรงเรียนประจำ “ โรส ฮิลล์ ” ( Rose Hill ) ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา เป็นโรงเรียนใกล้บ้าน ชอบหนีไปเที่ยวในป่าหลังโรงเรียนสังเกตรอยเท้าสัตว์ ฟังเสียงสัตว์ 4 เท้า และนก ชอบเล่นกีฬา ชอบเป็นผู้นำ เมื่ออายุ 13 – 19 ปี ต่อมาย้ายไปอยู่โรงเรียน Tunbridge well เมื่อเรียนจบ เข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาที่ชาเตอร์เฮาส์ อยู่เป็นนักเรียนประจำ เป็นโรงเรียนปับลิคสกูลของอังกฤษเรียนอยู่ 2 ปี ก็ย้ายออกไปอยู่ชนบทนอกกรุงลอนดอน ณ เมืองโกคาลมิง แคว้นเซอร์เรย์ รอบ ๆ บริเวณโรงเรียนเป็นป่า มีลำธาร B.P. ฝึกกีฬาฟุตบอล ฟันดาบ ยิงปืน ขี่ม้า โต้วาที วาดภาพ แสดงละคร ฯลฯ เมื่อจบการศึกษา จึงสอบเข้าที่โรงเรียนนายทหาร ณ แซนเฮอร์สต์ ( Sandhurst )
ชีวิตทหาร พ.ศ. 2419 – 2453 (ค.ศ. 1876 – 1910) B.P. ศึกษาอยู่ในโรงเรียนนายร้อยได้ 2 ปี สอบได้อันดับ 5 จากนักเรียนทั้งหมด 718 คน ได้ยศร้อยตรีแห่งกองทัพอังกฤษ เมื่ออายุ 19 ปี ออกประจำการที่กรมทหารม้าฮุสซาร์ที่ 13 ในอินเดีย อยู่นานถึง 8 ปี (ค.ศ.1876 – 1884 ) ครั้งสุดท้าย ได้ยศร้อยเอกระหว่างรับราชการใหม่ ๆ ได้เงินเดือนปีละ 120 ปอนด์ B.P. ใช้จ่ายอย่างอดออมงดการสูบบุหรี่ หาเงินจุนเจือโดยการเขียนเรื่องลงหนังสือพิมพ์ และเลี้ยงม้าขายจึงพอใช้จ่ายระหว่างเป็นทหารมีการย้ายไปอยู่อินเดีย และแอฟริกา
ปี พ. ศ. 2413 (ค.ศ. 1888) ปราบกบฎ ซูลู B.P. อายุได้ 31 ปี ได้ยศร้อยเอกได้รับคำสั่งให้ไปปราบกบฎพวกซูลู ในแอฟริกาซึ่งมี “ ดินิซูลู ” เป็นหัวหน้า แต่จับไม่ได้ เพราะ “ ดินิซูลู” หนีไปเสียก่อนในการปราบกบฎครั้งนี้ B.P. ได้รับความรู้นำมาใช้ในกิจการลูกเสือ 2 อย่างคือ
- บทเพลง “ อินกอนยามา” มาสอนเด็กๆ
หัวหน้านำ Eengonyaa Gonyama
( อินกอน – ยา – มา ) กอน – ยา – มา )
ลูกคู่ Invooboo yaboh yaboh Invooboo
( อิน – วู – บู ยา – โบห์ ยา – โบห์ อิน – วู – บู )
- สร้อยคอของ ดินิสซูลู แกะด้วยท่อนไม้เล็กๆ ประมาณ 1,000 กว่าท่อน (บางตำราว่าทำมาจากกระดูกสัตว์ 100 กว่าชิ้น) เป็นเครื่องรางคล้องคอ B.P. นำมาเป็นบีดส์ (Beads ) ใช้เป็นเครื่องหมาย วูดแบดจ์ มอบให้แก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่ผ่านหลักสูตรลูกเสือของกิลเวลล์ปาร์ค
พ.ศ. 2433 – 2436 ( ค.ศ. 1890 – 1993 ) B.P. ได้เลื่อนยศเป็นนายพันตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยทูตทหาร เป็นนายทหารคนสนิทของผู้ว่าราชการ เกาะมอลต้า ทำหน้าที่สืบราชการลับ
ชีวิตการเป็นลูกเสือ
พ.ศ. 2450 B.P. เห็นความสำคัญของเด็กจึงรวมเด็ก 20 คน (รวมหลานของท่านอีก 1 คน รวมเป็น 21 คน) จัดพาไปอยู่ค่ายพักแรมที่เกาะบราวน์ซี( Brownsea Island ) เป็นเวลา 9 คืน (ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ก.ค. 2450 ถึงเช้าวันที่ 9 ส.ค. 2450 ) ฝึกระบบหมู่ได้ผลเกินคาด ในการอยู่ค่ายพักแรมครั้งนี้เสียค่าใช้จ่ายคนละ 3 ชิลลิง 6 เพนนี ส่วนบุตรผู้ที่มีฐานะดีเสียคนละ 1 ปอนด์)ผลการฝึก เกิดความสนุกสนาน ได้ความรู้ ความสามัคคี ผู้ปกครองพอใจเด็กพึ่งตนเองได้ การอยู่ค่ายพักแรมครั้งนี้ ถือเป็นการกำเนิดลูกเสือครั้งแรกในโลก
พ.ศ. 2451 (ค.ศ. 1908) B.P. ได้เขียนหนังสือลูกเสือสำหรับเด็กชายขึ้น (Scouting for boy) เป็นหนังสือเล่มแรกในองค์การลูกเสือ กิจการลูกเสือเจริญก้าวหน้าในอังกฤษอย่างมาก
พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909) B.P. จัดชุมนุมลูกเสือแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกที่พระราชวังคริสตัล (CrystalPalace) ในกรุงลอนดอนมีลูกเสือเข้าร่วม 11,000 คน B.P. ได้รับพระราชทานเหรียญตรา “ Kinght Commander of the Victorian Order” มีบรรดาศักดิ์เป็นเซอร์โรเบิร์ต เบเดน เพาเวลล์ กิจการลูกเสือได้แพร่หลายออกไปทั่วโลก
หมายเหตุ กองลูกเสือในเครือจักรภพจัดตั้งในปี พ.ศ. 2451 (ค.ศ. 1908) ประเทศแคนาดา ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ พ.ศ. 2452 ( ค.ศ. 1909) ประเทศอินเดีย ประเทศนอกจักรภพที่ตั้งกองลูกเสือ พ.ศ. 2452 (ค.ศ. 1909)ประเทศชิลี พ.ศ. 2453 (ค.ศ. 1910)ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนายวิลเลียม บอยซ์ (William Boyce) พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911)พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6ทรงสถาปนาเป็นกองลูกเสือไทยขึ้น เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 เป็นประเทศที่ 3 นอกเหนือเครือจักรภพ
พ.ศ. 2453 (ค.ศ.1910) จัดตั้งกองลูกเสือหญิงขึ้นในอังกฤษเรียกว่า “ Girl Guide ” โดยมี Lady Baden Powell ภรรยาของ B.P. เป็นผู้ดำเนินการ
พ.ศ. 2454 (ค.ศ. 1911) ตั้งกองลูกเสือสมุทรเสนาขึ้นเป็นครั้งแรก
พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) สมรสกับมิสโอลาฟ เซนต์แคลร์ โซมส์ เมื่อ 30 ตุลาคม ค.ศ 1912 ( อายุ 55 ปี)
พ.ศ. 2457 – 2461 ( ค.ศ. 1914 – 1918 ) เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ลูกเสืออังกฤษช่วยรักษาสะพาน สายโทรศัพท์ช่วยทำหน้าที่สื่อสาร ช่วยงานในโรงพยาบาล ได้รับเหรียญกล้าหาญวิคตอเรียคอส 11 คน
พ.ศ. 2462 (ค.ศ. 1919) B.P. จัดตั้งสถานฝึกอบรมลูกเสือขึ้นที่ Gillwell Park เป็นศูนย์การฝึกอบรมลูกเสือของโลกในอังกฤษ มิสเตอร์เดอบัวส์ แมคลาเรน ซื้อมอบให้เดือนกันยายน ค. ศ. 1919 เปิดอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือรุ่นที่ 1 (19 คน)
พ.ศ. 2463 (ค.ศ. 1920) ประเทศต่าง ๆได้มาประชุมลูกเสือครั้งแรกที่อังกฤษ ตั้ง B.P. เป็น Chief Scout of the World.
พ.ศ. 2465 (ค.ศ. 1922) B.P. แต่งคู่มือลูกเสือวิสามัญ ประชุมลูกเสือโลกครั้งที่ 2 ณ กรุงปารีส และเพื่อเป็นเกียรติแก่ B.P. มีการลงมติให้ B.P. เป็นประมุขของลูกเสือโลกแต่เพียงผู้เดียว
พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) ตั้งกองลูกเสือสำหรับเด็กพิการขึ้นในอังกฤษ
พ.ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) กษัตริย์อังกฤษทรงเห็นว่า การลูกเสือมีประโยชน์มาก พระเจ้ายอร์ชที่ 5 จึงทรงตั้ง B.P. เป็น Baron Baden Powell of Gilwell มีศักดิ์เป็นสมาชิกสภาขุนนาง
พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) B.P. ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2484 ณ ประเทศเคนยา(Kenya) และศพถูกฝังอยู่ที่นั่น
B.P. เมื่อมีชีวิตอยู่ได้รับสมญา 3 ชื่อ
- Kantakye (ผู้สวมหมวกปีกใหญ่) ค.ศ. 1896 ที่เมืองอาซันติ
- Impeesa หรือ The Wolf Never Sleep (สุนัขป่าที่ตื่นอยู่เสมอ) ค.ศ. 1899
- Mafeking Defender (ผู้ป้องกันเมืองมาฟอีคิง) ค.ศ. 1900
{alertInfo}ที่มาครูสมชายคัดมาจาก: {getButton} $text={แหล่งที่มาข้อมูล} $icon={preview} $color={blue}{fullWidth}