{alertSuccess}บันทึกภูมิหลัง
เมื่อ บี .พี. ลาออกจากราชการทหารครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2453 ( ค.ศ. 1910 ) แล้ว บี.พี. ได้เอาประสบการณ์จากเมืองมาฟอีคิง ที่ได้จัดให้เด็กมาช่วยเหลือในการรักษาเมือง เช่น ทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวสอดแนมของกองทัพ รักษาสงบภายในอยู่ยามบนหอคอย คอยให้สัญญาณแก่ประชาชนเด็กๆสามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเข้มแข็งว่องไวได้ผลดีไม่แพ้ผู้ใหญ่ และบางอย่างทำได้ดีกว่าผู้ใหญ่ บี.พี. จึงคิดตั้งกระบวนการลูกเสือขึ้น
ท่านจึงเอาประสบการณ์ในอินเดีย แอฟริกาสมัยเมื่อท่านยังอยู่กับพวกซูลู และชาวพื้นเมืองเผ่าอื่นๆ นำมาคิดแปลงพัฒนาให้เหมาะสมกับการลูกเสือเด็กอย่างรอบคอบ ในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ( ค.ศ. 1970 ) ท่านลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ได้รวมเด็ก 20 คน กับหลายของท่าน 1 คน รวมเป็น 21 คน โดยมีเพื่อนพันตรีแมคคาเรน เป็นผู้ช่วยในการอบรม ได้ทำการเปิดค่ายทดลองขึ้นเป็นครั้งแรกที่เกาะ บราวน์ซี ( Brownsea Island ) ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ เป็นเวลา 9 คืน ได้ทำการฝึกสอนอบรมวิชาการต่างๆ ด้วยตนเอง มีการเล่นเกมต่างๆ ร้องเพลงร่วมกัน รอบ ๆ กองไฟ เด็กได้รับความรู้ความสนุกสนานเป็นอย่างมาก ในเวลากลางคืนทุกคืนได้จัดลูกเสือหมู่หนึ่งผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่เป็น “ หน่วยรักษาการณ์ตลอดคืน ” ปรากฏว่าเป็นผลดีน่าพึงพอใจ นับเป็นการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือเป็นครั้งแรกของโลก การอยู่ค่ายพักแรมที่เกาะบราวน์ซี ครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ถึงวันที่ 9 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2450 ( ค.ศ. 1907 )
( มีหลักฐานซึ่งสลักไว้บนก้อนศิลา ณ เกาะบราวน์ซี ดังนี้ This Stone Commemorate the experimental Camp of 20 boys held on this site from l st – 9 th Augrst 1970 by Robert Baden – Powell of Gilwell Founder of the Scout and Guide Movements )
เด็กที่ท่านบี . พี. ครั้งนี้เป็นเด็กเร่ร่อนตามถนนตามท้องถิ่นต่างๆ ท่านได้พาเด็กไปฝึกอบรมตามโครงการลูกเสือที่ท่านร่างขึ้นไว้ โดยแบ่งลูกเสือออกเป็นหมู่ ๆ ละ 5 คน รวม 4 หมู่ แต่ละหมู่มีหัวหน้าปกครองรับผิดชอบบังคับบัญชาลูกหมู่โดยเด็ดขาด ในการทดลองครั้งนี้เป็นเด็กเร่ร่อนตามถนนตามท้องถิ่นต่างๆ ท่านได้พาเด็กไปฝึกอบรมตามโครงการลูกเสือที่ท่านร่างขึ้นไว้ โดยแบ่งลูกเสือออกเป็นหมู่ๆ ละ4 คน แต่ละหมู่มีหัวหน้าปกครองรับผิดชอบบังคับบัญชาลูกหมู่โดยเด็ดขาด ในการทดลองครั้งนี้ท่านได้รับความสำเร็จตามความมุ่งหมายทุกประการ ทำให้ท่านเกิดกำลังใจ และพยายามแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ให้เกิดผลดียิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
เมื่อท่านกลับจากการอยู่ค่ายพักแรมที่เกาะ (Brownsea Island) แล้วท่านจึงลงมือเขียนหนังสือ เรื่อง Scouting for boys (การลูกเสือสำหรับเด็กชาย) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ.1908) และในปีนี้เองที่ท่าน บี.พี จึงได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ กิจการลูกเสือได้แพร่หลายไปทั่วประเทศอังกฤษอย่างรวดเร็ว และต่อมาในพ.ศ. 2452 ( ค.ศ. 1909 ) พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษ King Edward ที่ได้ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภก และตัวท่าน บี. พี. ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น Sir ท่านได้ลาออกจากราชการทหารอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2453 เพื่อมาจัดด้านกิจการลูกเสือแต่อย่างเดียวตามพระราชปรารภของ King Edward ที่ 7 และตามคำของร้องของ Lord Kicgener
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2457 ท่านได้โทรศัพท์ติดต่อกองลูกเสือทุกกองในอังกฤษ เรียกประชุมด่วน เพื่อรับใช้ประเทศ (Nation service) ในระยะเวลาเพียงชั่วโมงแรกที่ประกาศสงครามเท่านั้น มีลูกเสือมาประชุมประมาณ 32,000 คน ได้เข้าทำการรักษาการณ์ตามสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ทางรถไฟ สะพาน และโทรเลข ทั่วเกาะอังกฤษ และยังช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อข่าว ช่วยเหลือในโรงพยาบาล ลูกเสือสมุทรผลัดเปลี่ยนกันอยู่เวรยามตามเวรยามตามชายฝั่งทะเลตอนใต้ของอังกฤษ และได้ปฏิบัติงานช่วยชาติอยู่จนถึงวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2463 ( ค.ศ . 1920)
ในปี พ.ศ. 2463 มีลูกเสือทุกประเทศทั่วโลก ได้มาร่วมการชุมนุมกันที่กรุงลอนดอน เป็นการชุมนุมลูกเสือโลกครั้งแรก ในการประชุมครั้งนี้ ลูกเสือทั้งหลายพร้อมใจกันประกาศยกย่องให้ บี.พี. ดำรงตำแหน่งประมุขคณะลูกเสือโลก (Chief Scout of The World)
เมื่อกิจการลูกเสือมีอายุครบรอบ 21 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2417 (ค.ศ. 1928) ซึ่งเป็นการบรรลุ “ นิติภาวะ “ ตามกฏหมายอังกฤษและมีลูกเสือทั่วโลกถึง 2 ล้านคนเศษ พระเจ้ายอร์ช ที่ 5 ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ บี.พี. เป็นบารอน เรียกว่า Lord Baden – Powell of The World of Gilwell ต่อจากนั้นกิจการลูกเสือก็เจริญก้าวหน้าออกไปโดยไม่หยุดยั้ง
ต่อมาประเทศสหรัฐอเมริกาเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการลูกเสือมาก จึงได้นำไปตั้งกองลูกเสือขึ้นในสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ 2 (พ.ศ. 2453) รองจากชิลี (พ.ศ. 2452)
ส่วนประเทศไทยเราตั้งกองลูกเสือเป็นอันดับที่ 3 ของโลก โดยก่อตั้งขึ้นที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงขนานนามว่า “ กองลูกเสือกรุงเทพ ฯ ที่ 1 ” (ลูกเสือหลวง) ต่อมาจึงจัดขึ้นตามโรงเรียนต่างๆ และได้ตราข้อบังคับลักษณะการปกครองลูกเสือขึ้นไว้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 (จึงถือว่าวันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันกำเนิดลูกเสือไทย)
หมายเหตุ ในการอยู่ค่ายพักแรมที่เกาะบราวน์ซีครั้งนั้น บางตำราก็ว่าท่าน บี-พี ได้ขอให้เพื่อนนายทหารส่งบุตรหลานที่เป็นนักเรียนโรงเรียนรัฐบาลใหม่ ๆ ของอีดันแฮร์โรว์เข้าค่ายร่วมกับเด็กมัธยม ลูกกรรมกร จากเมืองบอร์นมัธ และพูด โดยคิดค่าเข้าค่ายและอาหารคนละ 1 ปอนด์ ส่วนลูกกรรมกรคนละ 3 ชิลลิง 6 เพนนี เกาะบราวน์ซีเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ทางตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ตรงหน้าอ่าวเมืองพลูมีความยาวประมาณ 1 ½ ไมล์ กว้างสุดประมาณ ¾ ไมล์ มีพื้นที่ประมาณ 560 เอเคอร์ (ประมาณ 1,440 ไร่) บนเกาะมีตึกใหญ่เดิมเป็นของมิสเตอร์ชารลส์ แวน ราอาลต์ รอบตึกมีที่ดินเหมาะสำหรับการพักแรม บี.พี. ทำหนังสือขออนุญาติเจ้าของเกาะตั้งค่ายพักแรม ปัจจุบันเกาะนี้เป็นสมบัติของชาติอังกฤษการอยู่ค่ายพักแรมครั้งนี้ บี.พี. ใช้กางเต็นท์โดยเช่าจากเมืองบอร์นมัธ ทำเป็นที่พักนอนโรงครัว และที่รับประทานอาหาร ใช้เสื่อทำด้วยฟางปูนอนเด็กอยู่ค่ายสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น สวมหมวกปีกพับข้าง ทุกคืนก่อนจบการประชุมรอบกองไฟมีการสวดมนต์เคารพพระเจ้า แล้วจึงแยกเข้าที่นอน ส่วน บี.พี. กับพันตรีแมคคาเรนจะมีการปรึกษาหารือถึงกิจการงานก่อนแล้วจึงนอน
ตารางการฝึกอบรมแต่ละวันมีดังนี้
ตื่นนอนเวลา 06.00 นาฬิกา แล้วปฏิบัติ
- ล้างหน้า แต่งตัว ทำความสะอาดที่พัก
- ดื่มโกโก้ร้อน 1 ถ้วย
- ชี้แจงกิจกรรมประจำวัน
- กายบริหารร่างกายท่ามือเปล่า
- พิธีเชิญธงขึ้นสู่ยอดเขา
- สวดมนต์
- อาหารเช้า
- กิจกรรม
- รับประทานอาหารกลางวัน
- กิจกรรม
- ฯลฯ
ในคืนวันที่ 31 กรกฎาคม บี.พี. จัดให้มีการนั่งรอบกองไฟเป็นครั้งแรก โดยท่านเป็นผู้นำในการประชุมรอบกองไฟ มีการร้องเพลงร่วมกัน และเล่าประสบการณ์ของท่านในอินเดีย และแอฟริกาให้เด็ก ๆ ฟัง เสร็จแล้วทำการปฐมนิเทศชี้แจงผลรายละเอียดต่าง ๆ กำหนดกิจกรรมที่ทำในวันต่อ ๆ ไป ก่อนปิดการประชุมรอบกองไฟ มีการสวดมนต์ แล้วปิดประชุมรอบกองไฟ ให้เด็กกลับไปนอนในเต็นท์ ส่วน บี.พี กับ พันตรีแมคคาเรน ยังคงการปรึกษา หารือถึงงานที่จะทำต่อไปเสร็จแล้ว จึงเข้านอน ( ซึ่งเป็นแบบอย่างกิจกรรมลูกเสือในทุกวันนี้ ) วิชาที่ทำการฝึกอบรม ได้แก่ สัญญาณต่าง ๆ การบุกเบิก การผูกเงื่อน การทำสะพาน การคาดคะเนระยะทาง การอยู่ค่ายพักแรม การสังเกตและจำ และการปฐมพยาบาล เป็นต้น ขณะที่มีการเข้าค่ายห้ามมิให้ผู้อื่นเข้าไปในบริเวณการอยู่ค่ายโดยเด็ดขาด ยามรักษาการณ์จะปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง แม้แต่เจ้าของเกาะ พร้อมบุตรชาย หญิงก็เข้าไม่ได้ ยามซึ่งเป็นเด็กจะคอยส่งตัวกลับบ้านแต่ในวันสุดท้ายของการอยู่ค่ายพักแรม บี.พี. จะให้เด็กๆจัดงานการแสดง โดยให้เชิญแขกคือ บิดา มารดา เจ้าของเกาะ พร้อมบุตรชาย หญิง และให้เด็กๆเป็นผู้วางแผนการรับรองเองเมื่อเสร็จจากการอยู่ค่ายพักแรมในครั้งนั้น บี. พี. ได้รับจดหมายแสดงความยินดี ชื่นชมมากเพราะเด็กๆ ได้รับความรู้ ความสนุกสนาน ช่วยตัวเองได้ รู้จักคิด ช่วยเหลือผู้อื่นการแสดงที่จัดในวันสุดท้ายนี้เด็กจะฝึกหัดกันเอง มีการเล่นเกม แข่งขัน สาธิตวิชา ปัจจุบันพยาบาล ดับเพลิง ทอเสื่อ ยูโด และชักเย่อ เวรยามเด็กๆจัดกันเอง ตั้งแต่เช้าถึง 23.00 น. แบ่งหน้าที่กัน ทำครัวจัดอาหารผลัดเปลี่ยนกันอยู่เวร ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีเป็นที่น่าพอใจปัจจุบันวงการลูกเสือทั่วโลกจึงถือว่า การทดลองอยู่เกาะบราวน์ซี เป็นการเริ่มต้นของลูกเสือโลก และถือว่า บี.พี. คือบิดาแห่งลูกเสือโลก
วาระสุดท้าย
เมื่อท่าน บี.พี มีอายุครบ 80 ปี พระเจ้ายอร์ชที่ 6 ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “ออร์เดอร์ ออฟ เมริท ” ( O.M. ) อันมีเกียรติ ขณะนั้นสุขภาพของท่านลอร์ดเสื่อมลงเรื่อยๆ ท่านจึงออกจากประเทศอังกฤษ กลับสู่แอฟริกาอีกครึ่งหนึ่งได้พักอยู่ที่บ้านในเมืองไนเยอรรี ประเทศเคนยา (Kenya) เมื่อพ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) และท่านถึงแก่กรรมที่นั่นเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2484 ด้วยอาการสงบได้รับยศทางทหารเป็นพลโท มีอายุได้ 83 ปี 10 เดือน 16 วัน ( อีกประมาณเดือนเศษก็จะครบ 84 บริบูรณ์ )
จากชีวประวัติของท่าน บี.พี. ตลอดเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นผู้มีความเสียสละอย่างสูงทั้งทางด้านทหารและพลเรือน ทำทุกสิ่งทุกอย่างไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมีความกล้าหาญทั้งการปฏิบัติในหน้าที่ราชการ และการผจญภัยส่วนตัว ทำให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่ชีวิตมากมาย ท่านยังได้มอบ ประสบการณ์อันล้ำค่าแก่เด็ก ๆ ในการก่อตั้งให้กำเนิดลูกเสือโลกแก่เยาวชนชายหญิงทั่วโลก อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่มนุษยชาติ มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
ภายหลังจากท่านถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ได้มีการเปิดอนุสาวรีย์ของท่าน ร่างของท่านได้ถูกฝัง ณ สุสาน Mount Kenya นอนสงบนิ่งอยู่ภายใต้บรรยากาศอันสงบที่ท่านรักและปรารถนา ในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1947) นักบุญเซนต์ยอร์จ ได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์ของท่านลอร์ด เบเดน เพาเวลล์ ขึ้นที่วัดเวสต์มินสเตอร์ ( Westminster Abbey ) ในกรุงลอนดอน ใครจะไปเที่ยวที่วัดนี้จะพบอนุสาวรีย์ของท่านทางมุมตะวันตกเฉียงใต้ของโบสถ์
คำ Scout มาจากคำอะไร
S ย่อมาจาก Sincerity แปลว่า ความจริงใจ
C ย่อมาจาก Courtesy ” ความสุภาพอ่อนโยน
O ย่อมาจาก Obedience ” การเชื่อฟัง
U ย่อมาจาก Unit ” ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
T ย่อมาจาก Thrifty ” ความมัธยัสถ์
{alertInfo}ที่มาครูสมชายคัดมาจาก: {getButton} $text={แหล่งที่มาข้อมูล} $icon={preview} $color={blue}{fullWidth}